มีอยู่วันหนึ่ง ขณะที่ผมกำลังรักษาคนไข้ที่มีอาการปวดหลังเรื้อรัง ซึ่งคนไข้รายนี้ดูจากภายนอกก็รู้ว่าชอบออกกำลังกายประเภทยกนํ้าหนักแน่ๆ เพราะกล้ามแน่น เห็นลายกล้ามเนื้อชัดมากๆ แต่ขณะเดียวกันตัวเค้าก็ตึงมากเช่นกันจนผมต้องใช้แรงเยอะกว่าปกติในการรักษาคนไข้รายนี้
ผมจึงชวนคนไข้คุยขณะรักษาไปด้วนว่า "ปกติได้ยืดกล้ามเนื้อก่อนออกกำลังกายบ้างรึเปล่า" คนไข้ก็ตอบว่า "ได้ยืดบ้าง แต่ก็ไม่บ่อยนัก" แล้วผมก็ถามต่อไปว่า "แล้วได้เคยไปนวดตัวบ้างมัย้" คนไข้นี่รีบตอบกลับมาทันทีว่า "ไม่หรอก ไม่เคยนวดเลย แล้วไม่กล้านวดด้วย กลัวว่าไปนวดแล้วกล้ามแน่นๆที่ผมออกแรงมาจะหายไปหมด"
คุยมาถึงตรงนี้ ผมก็คิดในใจทันทีเลยว่า จะมีคนที่เล่นกล้ามสักกี่คนที่คิดแบบนี้กันบ้างเนี่ย ด้วยความคิดที่ว่า ไม่กล้านวด เพราะกลัวกล้ามหาย!! แล้วการนวดมันทำให้กล้ามหายได้จริงหรือเปล่า? ติดตามได้ในบทความนี้เลยครับ
ก่อนอื่นเราต้องมาทำความเข้าใจกันก่อนว่าทำไมคนเล่นกล้ามถึงคิดว่าการนวดถึงทำให้กล้ามหายไป เท่าที่ผมได้คุยกับนักกล้ามที่กลัวการนวด (นวดในที่นี้คือการนวดทั่วๆไปนะ เช่น นวดไทย นวดนํ้ามัน) เค้าจะพูดประมาณว่า "หลังจากที่นวดเสร็จ ตัวเค้าจะรู้สบาย รู้สึกโล่งดี แต่ที่กล้ามเนื้อน่ะสิ มันรู้สึกว่าไม่ค่อยกระฉับกระเฉง ตัวมันดูหยุ่นๆไม่เหมือนเดิม รู้สึกความตึงกระชับของกล้ามเนื้อมันน้อยลง เลยคิดว่าการนวดทำให้กล้ามเนื้อมันฝ่อไป ทำให้ความฟิตของร่างกายลดลง"
ในภาพผมกำลังยกผิวหนัง เพื่อลดความตึงของพังผืดใต้ผิวหนัง
เป็นอีกหนึ่งวิธีที่ช่วยลดอาการปวดตึงได้
โอเค พอเราเข้าใจความคิดของคนกลุ่มนี้แล้ว เราก็มาวิเคราะห์กันแบบบ้านๆกันว่าทำไมการนวดถึงทำให้เค้ารู้สึกอย่างนั้นกัน
การที่เรารู้สึกว่าความตึงกระชับของกล้ามเนื้อลดลงหลังจากที่นวดนั้น เป็นผลมาจากเส้นใยกล้ามเนื้อที่ตึงรั้งอยู่จากการออกกำลังกายมันเกิดการคลายตัว พวกก้อน trigger point บางส่วนก็เกิดการคลายตัว หรือก้อนมีขนาดเล็กลง ระบบการไหลเวียนภายในกล้ามเนื้อส่วนที่นวดนั้นก็ไหลเวียนดีขึ้น เราจึงรู้สึกผ่อนคลายพร้อมกับรู้สึกว่ากล้ามเนื้อมันหยุ่นๆแลดูนิ่มลงนั่นเอง
(trigger point คือ กลุ่มของเส้นใยกล้ามเนื้อที่จับตัวกันเป็นก้อนจากการที่กล้ามเนื้อหดเกร็งเป็นเวลานาน ซึ่งอาจมาจากการทำงานในท่าซํ้าๆเดิมติดต่อกันหลายชั่วโมง หรือการออกกำลังกายในท่าเดิมๆอย่างต่อเนื่องก็ได้ ถ้าใช้นิ้วกดไปที่ก้อนนี้คนไข้จะปวดจี๊ดที่กล้ามเนื้อมาก)
คลิป อธิบายเรื่อง trigger point
(คลิ๊ก https://youtu.be/q3uiqiag2FE)
แล้วการที่กล้ามเนื้อดูนิ่มลง หรือรู้สึกตัวเบาโล่งก็ไม่ได้หมายความว่ากล้ามเนื้อเราอ่อนแรงลง หรือทำให้กล้ามเราหายแต่อย่างใดนะ กล้ามเนื้อมันแค่อยู่ในโหมดผ่อนคลายเท่านั้นเอง จริงอยู่ที่หลังจากนวดเสร็จเราจะลองไปออกกำลังกายดูซะหน่อยแล้วจะพบว่าความฟิตของร่างกายมันหายไปบ้าง แต่ก็อย่างที่บอกนั่นแหละว่ากล้ามเนื้อมันอยู่ในโหมดผ่อนคลาย ต้องทิ้งช่วงไปประมาณ 3-4 ชั่วโมงถึงจะรู้สึกว่าความฟิตมันกลับมาดังเดิม
แล้วอีกอย่าง การที่มวลกล้ามเนื้อเราจะมีขนาดเล็กลง กล้ามเนื้อฝ่อลง หรือภาษาบ้านๆที่เรียกว่ากล้ามหายได้นั้น มีปัจจัยดังนี้...
- ได้รับสารอาหารจำพวกโปรตีนไม่เพียงพอ ร่างกายจึงปรับขนาดเส้นใยกล้ามเนื้อให้มีขนาดเล็กลงเพื่อรับกับปริมาณอาหารกินที่เข้าไป
- เกิดจากเราไม่ค่อยได้ใช้งานกล้ามเนื้อเอง ลองนึกภาพผู้ป่วยนอนติดเตียงดูก็ได้นะครับ ที่เค้านอนเฉยๆแล้วตัวก็ลีบเล็กลงไปเรื่อยๆ แม้จะได้รับสารอาหารเพียงพอแค่ไหนก็ตาม แต่ถ้าไม่ขยับเขยื้อนร่างกายเลย กล้ามเนื้อก็ฝ่ออยู่ดี กล้ามเนื้อเราจะโตขึ้นต้องได้รับสารอาหารที่เพียงพอร่วมกับการหมั่นใช้งานกล้ามเนื้อมัดนั้นอย่างสมํ่าเสมอครับ
- เกิดจากการบาดเจ็บเรื้อรัง การบาดเจ็บเรื้อรังของกล้ามเนื้อส่วนนั้นๆก็มีผลให้กล้ามเนื้อมีขนาดเล็กลงได้เช่นกัน เนื่องจาก เมื่อเราบาดเจ็บส่วนไหนของร่างกาย เราจะไม่กล้าใช้งานกล้ามเนื้อส่วนนั้นมาก พอไม่ค่อยได้ใช้งานนานๆเข้า กล้ามเนื้อมันก็ลีบเล็กลงเป็นธรรมดา ตามกฎของร่างกายที่ว่า "ถ้าไม่ใช้ ฉันลดขนาดลง" เพราะร่างกายมองว่ามันเป็นการเปลืองพลังงานโดยใช่เหตุที่จะให้กล้ามเนื้อส่วนนั้นโตทั้งที่ไม่ได้ใช้งานอะไร
ลักษณะโครงสร้างเส้นใยกล้ามเนื้อที่หุ้มกันเป็นชั้นๆ
แล้วแต่ล่ะชั้นจะมีพังผืดแทรกอยู่ระหว่างกลาง
แล้วทั้งนี้ท้้งนั้น เพื่อนๆก็ไม่ต้องกลัวว่าถ้ากล้ามเนื้อมันลีบเล็กลง หรือกล้ามเนื้อฝ่อไปแล้วจะไม่สามารถกลับมาเป็นคนมีกล้ามโตได้ดังเดิมนะ ผมต้องบอกอย่างนี้ว่า กล้ามเนื้อที่มันฝ่อ มันคือการลดขนาดตัวเส้นใยกล้ามเนื้อตัวเอง ไม่ได้ถูกกำจัดออกให้สลายหายไปไหนครับ เส้นใยกล้ามเนื้อคนเราก็เหมือนกับลูกโป่งนั่นแหละ ถ้าได้อาหารเพียงพอและได้ใช้งานสมํ่าเสมอ มันก็พองโตขึ้น แต่ถ้าช่วงไหนได้อาหารน้อยแล้วไม่ค่อยได้ใช้งานกล้ามเนื้ออีก มันก็แฟบลงเป็นธรรมดาครับ
ฉะนั้น ใครที่คิดว่าการนวดแล้วจะทำให้กล้ามเนื้อลีบเล็กลง หรือทำให้กล้ามหายไปล่ะก็ ลืมไปได้เลยครับ มันเป็นไปไม่ได้แน่นอน แล้วอีกอย่างนักกีฬาอาชีพหลังจากที่เค้าซ้อม หรือแข่งขันเสร็จเค้าจะไปนวดกันด้วยซํ้านะ เพียงแต่การนวดจะไม่ได้เหมือนการนวดไทย หรือนวดนํ้ามันแบบที่เราคุ้นๆกันนะ
ภาพตัวอย่างแสดงถึงการนวดในนักกีฬา
เค้าจะไปนวดในเชิงนวดนักกีฬา หรือที่เรียกกันว่า sport massage เพื่อให้ความตึงตัวของกล้ามเนื้อและพังผืดใต้ผิวหนังอ่อนตัวลง เพิ่มระบบการไหลเวียนเลือดให้ดีขึ้นทั่วทั้งร่างกาย ช่วยฟื้นฟูการบาดเจ็บเล็กๆน้อยๆได้จากการไหลเวียนเลือดที่ดีขึ้น เพราะเลือดจะนำพาสารอาหารไปซ่อมแซมส่วนที่เสียหายได้มากขึ้นนั่นเองครับผม
โอเค ทีนี้เพื่อนๆก็น่าจะเข้าใจกันบ้างแล้วเนอะว่า การนวดไม่ได้ทำให้กล้ามเนื้อเราลีบเล็ก หรืออ่อนแรงลงแต่อย่างใด ฉะนั้น ถ้าใครที่ชอบนวดอยู่แล้ว จะไปนวดผ่อนคลายสักหน่อยก็ไม่ต้องกังวลใจแต่อย่างใดนะครับ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น