วันเสาร์ที่ 28 กรกฎาคม พ.ศ. 2561

เรื่องเล่าจากคนไข้ ตอนที่ 1



สวัสดีครับ วันนี้มีเรื่องราวสุขภาพจะมาแชร์ให้ฟังผ่านมุมมองของผม 

ในช่วงที่ผมเปิดคลินิกกายภาพอย่างเป็นทางการจนถึงวันนี้ก็ร่วมๆ 7 เดือนเห็นจะได้ ได้พบเจอคนไข้มากมาย แต่สิ่งหนึ่งที่สร้างความประหลาดใจให้แก่ผมอยู่บ่อยครั้งก็คือ เรื่องอายุคนไข้ครับ คือ ผมโดนคนไข้หลอกอายุบ่อยมากกกกกกกกกกกก หลอกอายุในที่นี้ ไม่ได้หมายถึงเค้าแกล้งบอกอายุหรือกรอกอายุในใบประวัติผู้ป่วยผิดนะ แต่หมายถึงหน้าตาคนไข้ไม่ได้สัมพันธิ์กับอายุที่เป็นอยู่เลยน่ะครับ พอคนไข้เดินเข้ามา ผมเห็นใบหน้าปุ๊บก็จะเดาอายุคนไข้คร่าวๆไว้ก่อนว่าน่าจะอายุประมาณนี้ๆๆนะ (ที่เดาอายุก่อนก็เพื่อระหว่างที่คนไข้กรอกประวัติผมจะได้ซักถามอาการของโรคว่าปวดตรงไหน ปวดได้ยังไง เป็นมายังไงถึงปวดขนาดนี้ เพราะช่วงอายุมันสัมพันธิ์กับโรคครับ) 

ยกตัวอย่างเช่น มีคนไข้คนหนึ่งมาด้วยอาการปวดเข่า พับเข่าไม่ได้ พอเห็นใบหน้าแล้วก็คิดว่าคนนี้อายุน่าจะ 30 ต้นๆแน่ๆเลย อายุแค่นี้คงเป็นแค่กล้ามเนื้อหรือเส้นเอ็นอักเสบอะไรทำนองนี้ แต่พอจับตรวจข้อเข่า คนไข้งอเข่าได้ไม่สุดแม้ผมจะช่วยออกแรงดันเข่าให้ มันจะรู้สึกแข็งๆตึงๆที่ข้อเข่า พอจับเขย่าตรงลูกสะบ้าก็รู้สึกได้ว่ามันมีกระดูกงอกใต้ลูกสะบ้าด้วย เข่าเริ่มโก่งนิดๆ ใต้ข้อพับเข่าก็บวมหน่อยๆ ตรวจมาถึงตรงนี้ผมชักจะเริ่มเอะใจแล้ว อาการมันเหมือนโรคข้อเข่าเสื่อมเลยนี่หว่า แต่อายุแค่ 30 มันจะเสื่อมได้ไวขนาดนี้เลยหรอ? คิดได้ดังนั้น ก็ไปหยิบประวัติมาดูซะหน่อย พอผมเห็นเลขอายุเท่านั้นผมนี่ตะลึงเลย คือ คนไข้คนนี้อายุ 50 กว่าแล้วจ้าาาาาา ผมนี่ยืนหันหน้าสลับไปมาระหว่างใบหน้าคนไข้กับใบประวัติ หันควับไปๆมาๆอยู่อย่างนั้น จนคนไข้ถามมาว่ามีอะไรผิดปกติรึเปล่าคะ? ผมเลยต้องขอถามอายุคนไข้ตรงๆว่าอายุเท่าไหร่แล้วครับ? (เผื่อคนไข้ตาลายเขียนช่วงอายุผิดอะไรงี้) คนไข้ก็บอกว่า 50 กว่าค่ะ ตามที่กรอกในใบประวัติเลยค่าาาา ผมนี่ถึงกับร้องว้าวเลย หน้าดูเด็กมากจริงๆ ผมเลยบอกคนไข้ไปแบบนี้ คนไข้ก็ขำอย่างอารมณ์ดี แล้วผมเองก็อดไม่ได้ที่จะถามว่าทำไมหน้าตาดูเด็กจังครับ ดูเด็กกว่าอายุจริงตั้ง 20 ปีแน่ะ 

นี่ก็เป็นตัวอย่างหนึ่งที่ผมเจอมา แล้วถ้าเจอคนไข้ที่หน้าดูเด็กกว่าอายุจริงมากๆแบบนี้ ผมก็จะขอถามประวัติเรื่องการกินการอยู่การนอนเพิ่มเติม เพื่อเก็บข้อมูลเอาไว้เป็นวิทยาทานให้คนอื่นๆต่อไป เค้าจะได้มีกำลังใจในการดูแลสุขภาพตัวเอง ซึ่งเคล็ดลับของความอ่อนเยาว์ที่ผมได้ถามคนไข้มา จะมีหลายอย่างๆที่เค้าทำเหมือนกัน ดังนี้ครับ 

1) เข้านอนไว และตื่นเช้าตรู่ (ส่วนใหญ่จะบอกว่านอนประมาณ 3 ทุ่ม)
2) ทำกับข้าวทานเอง 
3) ไม่ทานนํ้าตาล ของหวาน หรือขนมเลย (บางคนก็ทานแต่นานๆครั้ง)
4) ทานผักทุกมื้ออาหาร ทานผลไม้ทุกวัน (คนไข้ที่ผมยกตัวอย่างไป เค้าทานผักทุกมื้ออาหารเลยครับ)
5) ไม่ทานเนื้อสัตว์ใหญ่ เช่น หมู วัว แพะ จะทานปลามากเป็นพิเศษ (อย่างคนไข้ที่ผมยกตัวอย่างไป สำหรับเนื้อสัตว์เค้าทานแค่ปลาเท่านั้น)
6) ทานของทอด ปิ้ง ย่างน้อยมาก จะปรุงอาหารด้วยการนึ่ง อบ ต้มเสียเป็นส่วนใหญ่
7) ดื่มนํ้าเปล่าเยอะมากๆ เฉลี่ยประมาณ 2 ลิตร แต่จะเป็นลักษณะการจิบนํ้าตลอดทั้งวัน ไม่ได้ดื่มแบบยัดเข้าไปทีเดียว
8) ชอบออกกำลังกายตอนเข้า เช่น ปั่นจักรยาน, วิ่ง 3-5 กิโลเมตร บางคนก็จะชอบเล่นยกเวท บางคนก็จะเต้นแอโรบิก แต่เท่าที่ผมถามเรื่องการออกกำลังกายอย่างละเอียด คนไข้ส่วนใหญ่จะออกกำลังกายแบบหลากหลายประเภทนะครับ ไม่ได้ออกแค่อย่างเดียว
9) หัวเราะง่าย ยิ้มง่าย ดูมีความสุขอยู่ตลอดเวลา (หัวข้อนี้สำคัญมากๆครับ)

พออ่านมาถึงตรงนี้แล้ว เพื่อนๆบางคนอาจจะถอดใจไปซะก่อนว่าฉันคงทำไม่ได้แน่ๆ ใจเย็นๆนะครับ ผมอยากจะบอกว่า คนไข้ทุกคนที่ผมถามเค้าไม่ได้ทำได้ครบทั้ง 9 ข้อที่ผมบอกมาหรอกนะครับ บางคนก็ทำได้ 5 ข้อบ้าง บางคนก็7 ข้อบ้าง ขึ้นอยู่กับลักษณะการใช้ชีวิตของแต่ล่ะคนด้วยครับผม แต่ที่แน่ๆที่ทุกคนทำเหมือนกันหมดเลยก็คือ การออกกำลังกายครับ ฉะนั้น ถ้าเพื่อนๆคนไหนอยากดูอ่อนเยาว์กว่าอายุจริงแล้วไม่รู้จะเริ่มจากอะไรก่อนล่ะก็ ให้เริ่มจากการออกกำลังกายวันล่ะ 40 นาทีอย่างสมํ่าเสมอล่ะกันนะครับ 

ปล. สิ่งที่ยากที่สุดในการที่จะทำให้ตัวเองแลมีสุขภาพดี ไม่ใช่เรื่องของเงิน หรือไม่มีเวลาหรอกนะครับ แต่เป็นความเคยชินกับรูปแบบการใช้ชีวิตในแบบเดิมๆครับผม คนไข้ที่ผมรักษาแล้วหายไว โดยส่วนมากเค้ามีวินัยในการกิน การนอน และการออกกำลังกายตามที่ผมบอกได้ค่อนข้างเป๊ะมากๆ เช่น จากเดิมนอนตื่นสาย ก็ให้ตื่นเช้าขึ้นเพื่อแบ่งเวลามาออกกำลังกายตามที่ผมบอกประมาณ 20 นาที ก่อนออกไปทำงาน เพียงเท่านี้เค้าก็มีเวลาเพิ่มขึ้นในแต่ล่ะวันแล้วครับผม สุขภาพดีสร้างได้ด้วยวินัยของเราเองนะครับ ^^
---------------------------------------------------------
ติดต่อเข้ารับการรักษาที่ ดูบอดี้ คลินิกกายภาพบำบัด 
นัดวันและเวลาก่อนเข้าคลินิกได้ที่ เบอร์ 064-008-7537 
หรือ ขอคำปรึกษาเรื่องโรคต่างๆได้ใน line ID : doobody 

แผนที่คลินิกกายภาพ => https://goo.gl/shPWGR

วันพฤหัสบดีที่ 19 กรกฎาคม พ.ศ. 2561

[คลิป 88] 2 สาเหตุ ที่ผู้หญิงอ้วนลงพุงง่ายกว่าผู้ชาย



2 สาเหตุ ที่ผู้หญิงอ้วนลงพุงง่ายกว่าผู้ชาย

สำหรับผู้หญิงคนไหนที่พยายามลดนํ้าหนักมาสารพัดวิธีจนแขนเล็ก ขาเรียว แต่พอก้มมองไปที่พุง ปรากฎว่าพุงยังป่องอยู่เหมือนเดิมล่ะก็ บางทีอาจเกิดจากสาเหตุที่เพื่อนๆคิดไม่ถึงก็เป็นไปได้นะครับ 

รายละเอียดในคลิป 

สาเหตุที่ 1 : นั่งนาน (นาทีที่ 0:24)
วิธีป้องกัน (นาทีที่ 2;49)
สาเหตุที่ 2 : ดื่มนํ้าเย็น (นาทีที่ 4:12)
ฮอร์โมนก็มีส่วนนะ (นาทีที่ 6:12)
สรุป (นาทีที่ 8:16)



https://www.facebook.com/doobodys/
http://www.doobody.com/
Line ID :doobody
แผนที่คลินิกกายภาพ  https://goo.gl/shPWGR

[คลิป VDO 87] [คลิป 87] ท่าบริหาร แก้ปวดคอ บ่า หลังในที่ทำงาน



[คลิป 87] ท่าบริหาร แก้ปวดคอ บ่า หลังในที่ทำงาน

จริงๆแล้วท่าบริหารเพื่อแก้อาการปวดคอบ่าหลัง หรือที่เรียกรวมๆกันว่า โรคออฟฟิศ ซินโดรมนั้น มีอยู่หลายท่ามากเลยนะครับ แล้วผมเองก็สาธิตไปหลายคลิปแล้วเหมือนกัน แต่ในคลิปนี้จะต่างออกไปเล็กน้อย ตรงที่ใช้การหายใจร่วมกับการทำกายบริหาร ซึ่งจะช่วยให้เราคลายกล้ามเนื้อได้หลายส่วนในเวลาเดียวกันนั่นเองครับผม 

รายละเอียดในคลิป 

ท่าที่ 1 : กางนิ้ว แบะอก (นาทีที่ 0:14)
ท่าที่ 2 : แบะอก ก้มหลัง (นาทีที่ 1:55)
ท่าที่ 3 : จับเก้าอี้ บิดหลัง(นาทีที่ 4:47)
ท่าที่ 4 : วางหน้าตัก ตั้งรำวง (นาทีที่ 6:37)
ท่าที่ 5 : ชูแขน เอียงตัว (นาทีที่ 8:48)
ท่าที่ 6 : กางแขน สยายปีก (นาทีที่ 11:00)



Line ID :doobody
แผนที่คลินิกกายภาพ => https://goo.gl/shPWGR

[คลิป VDO 86] (ต่อ) 6 วิธี ลดปวดขอบกางเกงใน จากโรค SI joint syndrome Part 2


(ต่อ) 6 วิธี ลดปวดขอบกางเกงใน จากโรค SI joint syndrome Part 2

สำหรับคลิปนี้ เป็นคลิปต่อจากคลิปที่ 85 นะครับ เป็นท่าบริหารเพิ่มเติมเพื่อลดปวดตามขอบกางเกงในจากโรค SI joint syndrome

รายละเอียดในคลิป

วิธีที่ 4 : จับหู บิดเอว (นาทีที่ 0:09)
วิธีที่ 5 : ขยับทีล่ะส่วน (นาทีที่ 2:55)
วิธีที่ 6 : นอนตะแคง กวาดขา (นาทีที่ 6:51)



https://www.facebook.com/doobodys/
http://www.doobody.com/
Line Id :doobody
แผนที่คลินิกกายภาพ => https://goo.gl/shPWGR

[คลิป VDO 85] 6 วิธี ลดปวดตามขอบกางเกงใน จากโรค SI joint syndrome Part 2



6 วิธี ลดปวดตามขอบกางเกงใน จากโรค SI joint syndrome Part 2

สำหรับคลิปนี้ก็เป็นอีกหนึ่งวิธีที่ช่วยลดปวดเอว ปวดกระเบนเหน็บ ปวดตามแนวขอบกางเกงในจากโรค SI joint syndrome ซึ่งผมได้เพิ่มท่าบริหารต่อจากคลิปที่ 56 นะครับ เพราะเห็นว่าในคลิปที่ 56 เพื่อนๆบางคนท่าในคลิปนั้นไม่ได้ อาจจะเพราะท่ามันยากไป หรือไม่ก็บางท่ามันต้องใช้แรงในการบริหารเยอะเกิน ฉะนั้น ในคลิปนี้ผมจึงเลือกท่าบริหารที่สามารถทำได้ง่ายมากขึ้นมาให้ชมกัน

แล้วเมื่อเพื่อนๆดูคลิปนี้จบแล้วก็ไม่ต้องแปลกใจนะถ้าเห็นว่ามีแค่ 3 ท่าเอง จริงๆแล้วท่าที่ 4 5 และ 6 อยู่ในคลิปที่ 86 ครับ เพราะผมเห็นว่า ถ้าลงทั้ง 6 ท่าเลยคลิปมันอาจจะดูมีความยาวเกินไปครับ

รายละเอียดในคลิป

วิธีที่ 1 : แอ่นตูด หดตูด (นาทีที่ 2:45)
วิธีที่ 2 : ส่ายตูด (นาทีที่ 6:32)
วิธีที่ 3 : นอนหงาย หมุนสะโพก (นาทีที่ 11:14)
ส่วนท่าที่ 4 5 และ 6 รับชมต่อในคลิปที่ 86 นะครับ



https://www.facebook.com/doobodys/
http://www.doobody.com/
Line Id :doobody
แผนที่คลินิกกายภาพ => https://goo.gl/shPWGR


[คลิป VDO 84] วิธีดามเข่าให้ตรง ป้องกันเข่างอหลังผ่าตัด (PART 3)



วิธีดามเข่าให้ตรง ป้องกันเข่างอหลังผ่าตัด (PART 3)

มาถึง part สุดท้ายแล้วนะครับสำหรับวิธีการทำให้เข่าตรงในคนไข้ที่เข่าในท่างอ ซึ่งใน part นี้ผมทำเสริมขึ้นมาจากในส่วนของการดามเข่าโดยการใช้ผ้ารัดขา โดยเปลี่ยนมาเป็นการใช้เทปแทนครับ

ซึ่งจะมีข้อดีตรงที่ติดได้นาน แล้วไม่ดูลุ่มลามมากนักเมื่อเทียบกับการใช้แบบผ้ารัดครับผม เพียงแต่อาจจะต้องเปลืองเงินกันหน่อยนะ



https://www.facebook.com/doobodys/
http://doobody.com/
Line ID : doobody
แผนที่คลินิกกายภาพ => https://goo.gl/shPWGR

[คลิป VDO 82] ดัดเข่าให้ตรง ในคนไข้เข่าติดหลังผ่าตัด (PART 1)




ดัดเข่าให้ตรง ในคนไข้เข่าติดหลังผ่าตัด (PART 1)

จะว่าไปเรื่องของการผ่าตัดสำหรับคนไทยที่เห็นผ่ากันเยอะมากๆไม่ว่าจะคนหนุ่มสาว หรือชราแค่ไหนก็ตาม จัดว่าเป็นตำแหน่งยอดฮิตของคนไทยก็ว่าได้นะสำหรับการผ่าเข่านี่

ซึ่งเราจะผ่าเข่ามาด้วยสาเหตุอะไรก็ตาม โดยส่วนมากเมื่อผ่าเสร็จแล้วคนไข้มักจะคิดว่า ผ่าเสร็จแล้วก็จบกัน พอแผลหายเดี๋ยวก็เดินได้เอง กินยาตามที่หมอจ่ายมาก็เพียงพอแล้ว เมื่อคนไข้ส่วนใหญ่คิดกันแบบนี้ ปัญหาจึงเกิดทันทีครับ นั่นคือ หลังจากที่แผลเริ่มแห้งดี อาการปวดเริ่มทุเลาลงแล้ว แต่ทำไมฉันยังรู้สึกว่าขยัาขาได้ไม่สะดวกเลย เข่าก็เริ่มติด ข้อก็เริ่มหนืด เรี่ยวแรงขาที่เคยมีจู่ๆมันก็หายไปไหนหมด แถมกล้ามเนื้อก็ดูนุ่มนิ่มจนดูเหี่ยวซะงั้น 

พอมาถึงจุดนี้ คนไข้ก็ร้อนใจต้องวิ่งไปหาหมอ หรือนักกายภาพให้ทำการรักษาให้หน่อย แต่ถ้าผ่าเสร็จเป็นเดือนๆแล้วค่อยไปทำกายภาพ หรือค่อยบริหารร่างกายล่ะก็ บางทีมันอาจจะช้าไปหน่อยนะ เพราะเคสที่ทิ้งไว้นานแบบนี้จะมีปัญหาข้อเข่าติดกันครับ คือ บางรายเข่าติดจนงอเข่าไม่ได้ หรือไม่ก็เหยียดเข่าไม่สุดก็มีให้เห็นเยอะจนเราเป็นเหมือนคนพิการชั่วคราว เพราะขายาวไม่เท่ากันจากการเหยียดเข่าได้ไม่สุด จริงๆแล้ว หลังผ่าตัดเสร็จใหม่ๆได้วันสองวัน เราก็สามารถบริหารร่างกายเบาๆได้แล้วครับ ยิ่งเราบริหารเร็ซเท่าไหร่ก็ลดความเสี่ยงที่จะทำให้ข้อติดได้มากเท่านั้นครั้บผม แต่ไม่มีอะไรสายเกินแก้ครับ

ฉะนั้น ในคลิปนี้ ผมจะบอกถึงวิธีแก้ปัญหาข้อเข่าติด เพื่อให้เราเหยียดเข่าได้มากขึ้นในแบบฉบับทำเองกันครับ 

รายละเอียดในคลิป 

จัดองค์ประกอบก่อนดัดเข่า (นาทีที่ 1:41)
- หาเตียงแข็งๆ หรือเก้าอี้พื้นแข็ง
- ให้คนไข้นั่งเหยียดขาข้างที่ต้องการดัด ห้ามนอน
- ให้ปลายนิ้วเท้าข้างที่ต้องการดัดตั้งชี้เพดานไว้ ไม่แบะขาออก
วิธีที่ 1 : มีคนดัดเข่าให้ (นาทีที่ 4:28)
วิธีที่ 2 : ทำเอง ดัดเอง (นาทีที่ 8:23)
สรุป นาทีที่ 11:15 



https://www.facebook.com/doobodys/
http://doobody.com/
Line ID : doobody
แผนที่คลินิกกายภาพ => https://goo.gl/shPWGR

[คลิป VDO 83] วิธีดามเข่าให้ตรง ป้องกันเข่างอหลังผ่าตัด (PART 2)





วิธีดามเข่าให้ตรง ป้องกันเข่างอหลังผ่าตัด (PART 2)

ใน part ที่ 2 นี้ผมจะพูดถึงวิธีการดามข้อเข่าครับ เพื่อป้องกันไม่ให้เข่าเรามันดีดกลับมางอเหมือนเดิม เพราะในคนไข้บางคนที่ผ่าเข่ามาแล้วทิ้งไว้นานจนเอ็นและพังผืดรอบเข่ามันเกิดหนาตัวทำให้การดัดเข่าทำได้ยาก และพอดัดจนเข่ามันเหยียดตรงดีแล้ว พอตื่นเช้ามาวันรุ่งขึ้นปรากฎเข่าดันกลับมางอเหมือนเดิม 

ดังนั้น การดามเข่าจะเป็นการแก้ปัญหาใน่ส่วนนี้ครับผม โดยมีอุปกรณ์ที่หาได้ง่ายๆในบ้านเราเลยนะ นั่นคือ ไม้หน้าสาม ผ้าขาวม้า 2 ผืน และคนที่จะมาช่วยเรากดเข่าไว้ขณะที่เราผูกผ้าครับ ส่วนระยะเวลาที่ใช้ในการดามนั้น สำหรับผู้เริ่มดามก็ใช้เวลาประมาณ 30 นาทีก่อน จากนั้นเมื่อเริ่มชินกับการดามแล้วก็ค่อยๆเพิ่มเวลาเป็น 1 ชั่วโมง 2 ชั่วโมง เรื่อยไปจนข้ามคืนไปเลยครับ 



https://www.facebook.com/doobodys/
http://doobody.com/
Line ID : doobody
แผนที่คลินิกกายภาพ => https://goo.gl/shPWGR

วันพุธที่ 18 กรกฎาคม พ.ศ. 2561

[คลิป VDO 81] ท่าลุกขึ้นจากเตียง สำหรับคนเป็นหมอนรองกระดูกทับเส้น..หลังส่วนล่าง



ท่าลุกขึ้นจากเตียง สำหรับคนเป็นหมอนรองกระดูกทับเส้น..หลังส่วนล่าง

มาแล้วครับ ท่าลุกจากเตียงสำหรับผู้ป่วยที่เป็นหมอนรองกระดูกทับเส้นประสาทที่ระดับหลังส่วนล่าง ซึ่งโดยทั่วไปแล้วคนที่เป็นหมอนรองปลิ้นที่ระดับนี้เยอะมากกว่าที่ระดับคอพอสมควรเลยนะ และที่สำคัญหายช้ากว่า แถมโอกาสเป็นซํ้าก็ง่ายกว่าด้วย ส่วนหนึ่งอาจเป็นเพราะที่กระดูกสันหลังระดับเอวเป็นส่วนที่ต้องรับนํ้าหนักของร่างกายแทบจะตลอดเวลา แล้วด้วยนํ้าหนักที่มากมายของร่างกายที่มากดหลังเนี่ยแหละ จึงเป็นเรื่องง่ายที่หมอนรองจะปลิ้นซํ้าได้นะ

โดยท่าลุกจากเตียงที่ระดับหลังส่วนล่างนั้น จะไม่ได้แตกต่างจากคอมากมัก นั่นคือ เลี่ยงการก้มหลังลุกจากเตียงนั่นเองครับ แต่ที่เพิ่มเติมเข้ามาคือ ผมจะแบ่งการลุกจากที่นอนออกเป็น 2 ส่วน ส่วนที่ 1 คือ เป็นท่าลุกจากเตียงนอน ส่วนที่ 2 จะเป็นท่าลุกจากพื้น ในกรณีที่เรานอนกับพื้นนะครับ

รายละเอียดในคลิป

สำหรับคนนอนเตียง
วิธีที่ 1 : ตะแคงลุกขึ้น (นาทีที่ 2:54)
สำหรับคนนอนพื้น 
วิธีที่ 2 : ตะแคงลุกขั้น นั่งพับเพียบ (นาทีที่ 6:52)
วิธีที่ 3 : นอนควํ่ายันตัวขึ้น (นาทีที่ 8:51)
สรุป : นาทีที่ 10:43 


https://www.facebook.com/doobodys/
http://doobody.com/
Line ID : doobody

[คลิป VDO 80] ท่าลุกขึ้นจากเตียง สำหรับคนเป็นหมอนรองกระดูกทับเส้น..ที่คอ



ท่าลุกขึ้นจากเตียง สำหรับคนเป็นหมอนรองกระดูกทับเส้น..ที่คอ

หัวข้อเรื่องการลุกจากเตียง มองดูเผินหลายคนอาจจะคิดว่าไม่ใช่เรื่องสำคัญอะไร ซึ่งก็เป็นความจริงหากร่างกายเราปกติดี แต่สำหรับผู้ป่วยที่เป็นหมอนรองกระดูกทับเส้นประสาทนั้น การจัดท่าทางการลุกจากเตียงที่ถูกต้องนั้นสำคัญพอๆกับวิธีการรักษาเลยล่ะครับ

เนื่องจากท่าทางการลุกที่ผิดๆ โดยเฉพาะท่าที่ต้องก้มหน้าก้มหลังลุกจากเตียงนั้น จะเป็นการกระตุ้นให้หมอนรองปลิ้นเพิ่มขึ้นได้ ซึ่งทำให้อาการของเราแย่ลงในทุกๆเช้า แถมทำให้เราเป็นๆหายๆ ไม่ยอมหายขาดจากโรคนี้ซะทีนะ ฉะนั้น ถ้าใครที่เป็นโรคหมอนรองกระดูกทับเส้นระดับคอล่ะก็ ควรฝึกท่าลุกจากเตียงให้คล่องเลยนะครับ จะได้หายขาดจากโรคที่เป็นอยู่ซะที


https://www.facebook.com/doobodys/
http://doobody.com/
Line ID : doobody

[คลิป VDO 79] วิธียืดเส้นประสาท แก้เท้าขา หน้าแข้งชา และลดปวดลดตึงที่หน้าแข้ง



วิธียืดเส้นประสาท แก้เท้าขา หน้าแข้งชา และลดปวดลดตึงที่หน้าแข้ง

ในคลิปที่ 46 ผมได้บอกถึงวิธีการยืดเส้นประสาทขาเพื่อแก้อาการขาชา ปวดขา ขาตึงต่างๆไปบ้างแล้ว ซึ่งเส้นประสาทเหล่านั้นเป็นมักจะมีปัญหาได้บ่อยแล้วก็ยืดได้ไม่ยาก 

แต่มาในคลิปนี้ผมก็จะบอกวิธีการยืดเส้นประสาทขาอีกเช่นกัน แต่เป็นการยืดเส้นประสาทส่วนย่อยลงมาหน่อย มีขนาดเล็กกว่า แต่ถ้าเส้นประสาทเส้นนี้มีปัญหาก็ทำให้เราเดินลำบาก เป็น foot drop ปวดตึงที่หน้าแข้ง ข้อเท้า หรือมีความรู้สึกชาที่หลังเท้าตลอดเวลาได้ 

ซึ่งเส้นประสาททั้ง 2 เส้นที่เราจะยืดกันในคลิปนี้ก็คือ superficial peroneal nerve และ deep peroneal nerve นะครับ หากใครที่ชอบวิ้งออกกำลังกายบ่อย แล้วปวดหน้าแข้งข้อเท้าเป็นประจำการยืดเส้นประสาทตามคลิปนี้ก็ช่วยบรรเทาได้นะครับ

รายละเอียดในคลิป

กายวิภาคของเส้นประสาททั้ง 2 เส้น (นาทีที่ 0:43)
วิธีที่ 1 : ยืดเส้นประสาท (นาทีที่ 4:09)
วิธีที่ 2 : นวดหน้าแข้ง (นาทีที่ 7:08)
บทสรุป : (นาทีที่ 9:30)



https://www.facebook.com/doobodys/
http://doobody.com/
Line ID : doobody

[คลิป VDO 78] 7 วิธี ลดปวดซี่โครง แก้หลังแข็งตึงเวลาหายใจ (Part 2)


7 วิธี ลดปวดซี่โครง แก้หลังแข็งตึงเวลาหายใจ (Part 2)

มาถึง part ที่ 2 กันแล้วนะครับกับวิธีลดปวดขณะหายใจ โดยใน part นี้จะพูดถึงการคลายกล้ามเนื้อที่เกี่ยวข้องกับการหายใจทั้งหมด 

ถ้าใครที่มีอาการเจ็บซี่โครง หลังตึง ปวดสะบัก หายใจไม่เต็มอิ่มล่ะก็ในคลิปนี้มีวิธีแก้อาการดังกล่าวได้หมดเลยครับ

รายละเอียดในคลิป

ท่าที่ 1 : นอนทับลูกกลิ้ง (นาทีที่ 0:44)
ท่าที่ 2 : ย่อเข่า บิดตัว (นาทีที่ 3:00 )
ท่าที่ 3 : กางแขน บิดตัว (นาทีที่ 7:17) 
ท่าที่ 4 : แอ่นอก ห่อหลัง (นาทีที่ 9:20)
ท่าที่ 5 : จับศอก เอียงตัว (นาทีที่ 12:25)
ท่าที่ 6 : ผีเสื้อกระพือปีก (นาทีที่ 15:25)
ท่าที่ 7 : นอนหงาย แอ่นอก ยกขา (นาทีที่ 17:14)
บทสรุป : (นาทีที่ 20:00)




Line ID : doobody

[คลิป VDO 77] วิธีแก้ปวด แน่นหน้าอก จุกลิ้นปี่ขณะหายใจจากกะบังลมผิดปกติ (part 1)


วิธีแก้ปวด แน่นหน้าอก จุกลิ้นปี่ขณะหายใจจากกะบังลมผิดปกติ (part 1)

ถ้าใครที่มีอาการเจ็บ เสียดหน้าอกทุกครั้งที่หายใจ หายใจสั้นตื้น มีความรู้สึกว่าหายใจไม่เต็มอิ่ม จุกลิ้นปี่ทั้งๆที่ไม่ได้เป็นโรคกรดไหลย้อน ปวดหน้าท้อง ต้องก้มหลังงอตัวถึงจะหายใจได้สุดล่ะก็ บางทีเพื่อนๆอาจมีปัญหาที่กล้ามเนื้อกะบังลมมีปัญหาก็ได้ ซึ่งเจ้ากล้ามเนื้อกะบังลมเป็นกล้ามเนื้อสำคัญที่ทำให้เราหายใจเข้าออกได้เป็นปกติ แต่ถ้าเกิดกะบังลมมีปัญหาล่ะก็ การหายใจเข้าออกแต่ล่ะครั้งคงเป็นเรื่องที่ลำบากไม่น้อยเลย

ฉะนั้น ในส่วนของคลิปนี้จะบอกถึงวิธีการคลายกล้ามเนื้อกะบังลม เพื่อให้เราหายใจเข้าออกได้เป็นปกติ โดยที่ไม่ทำให้เกิดอาการปวดต่างๆที่เกิดขึ้นที่ทรวงอก หรือที่บริเวณลิ้นปี่นั่นเองครับผม

รายละเอียดในคลิป 

- สาเหตุ ที่ทำให้กะบังลมมีปัญหา (นาทีที่ 4:10)
- อาการ ของโรค (7:36)
- วิธีรักษา (นาทีที่ 8:53)
- ทำไมต้องพูดลี ลี ไล โล ลู (นาทีที่ 10:59)
- เกร็ดความรู้ ทำไมเมื่อคอหักถึงเสียชีวิตเป็นส่วนใหญ่ แต่หลังหักถึงไม่ค่อยเสียชีวิตกัน (นาทีที่ 12:20)

https://www.facebook.com/doobodys/
http://doobody.com/
Line ID : doobody




วันพฤหัสบดีที่ 12 กรกฎาคม พ.ศ. 2561

[คลิป VDO 75] คนนั่งนานควรรู้ไว้ กับวิธีลดปวดขา แก้ขาชา ด้วยลูกเทนนิส


คนนั่งนานควรรู้ไว้ กับวิธีลดปวดขา แก้ขาชา ด้วยลูกเทนนิส

คงเป็นปัญหาไม่น้อยหากเรามีอาการปวดขา เมื่อยขา หรือรู้สึกขาชาขณะที่ต้องนั่งทำงานอยู่แล้วไม่สามารถลุกจากที่นั่งได้ โดยเฉพาะกับคนขับรถบ่อยๆ แล้วเราจะยืดเหยียดกล้ามเนื้อขาขณะขับรถก็คงเป็นไปไม่ได้ใหญ่ 

ถึงแม้เราจะไม่สามารถยืดกล้ามเนื้อขาได้ขณะอยู่บนรถ แต่ผมก็มีวิธีการลดปวดขา แก้เมื่อยขาได้ขณะอยู่บนรถมาฝากกัน ซึ่งวิธีการนั้น เราจะใช้ลูกเทนนิสเพียงลูกเดียวก็เพียงพอแล้วครับผม


[คลิป VDO 74] 5 วิธียืดกล้ามเนื้อ QL แก้ปวดหลัง-ปวดเอวส่วนลึก


5 วิธียืดกล้ามเนื้อ QL แก้ปวดหลัง-ปวดเอวส่วนลึก

หากเพื่อนๆคนไหนที่มีอาการปวดหลัง ปวดเอวลึกๆ ยืดกล้ามเนื้อหลังท่าไหนก็ไม่หาย ใช้คนมานวดก็ไม่โดนจุดซะทีล่ะก็ติดตามคลิปนี้ให้ดีครับ เพราะผมจะบอกวิธีการยืดกล้ามเนื้อหลังมัดลึกที่มีชื่อว่า quadratus lumborum ซึ่งเป็นกล้ามเนื้อที่หลายคนมักไม่ค่อยรู้จัก แต่เป็นมัดที่มีความสำคัญหลายอย่างมากๆ และที่สำคัญคือ หากกล้ามเนื้อ QL ตึง ก็ทำให้ขาเราดูสั้นยาวไม่เท่ากันทั้ง 2 ข้างได้ด้วยนะ 

ส่วนรายละเอียดวิธีการยืดกล้ามเนื้อ และสาเหตุที่ทำให้ขาสั้นยาวไม่เท่ากันจากกล้ามเนื้อ QL จะเกิดจากอะไรติดตามชมได้เลยครับผม

รายละเอียดในคลิป

ใครบ้างที่ควรดูคลิปนี้ (นาทีที่ 1:30)
สาเหตุที่ทำให้ปวด (นาทีที่ 2:50)
วิธีที่ 1 : ถ่างขา จับปลายเท้า (นาทีที่ 4:55)
วิธีที่ 2 : ตะแคงข้าง ดันตัว (นาทีที่ 6:58)
วิธีที่ 3 : นั่งเก้าอี้ เอียงตัว (นาทีที่ 9:06)
วิธีที่ 4 : โหนขอบประตู (นาทีที่ 13:02)
วิธีที่ 5 : นอนหงาย ทับลูกบอล (นาทีที่ 15:22) 



[คลิป VDO 73] 5 วิธี ดัดหลัง แก้หลังค่อม ลดปวดสะบัก ด้วยผ้าขนหนูเพียงผืนเดียว



[คลิป 73] 5 วิธี ดัดหลัง แก้หลังค่อม ลดปวดสะบัก ด้วยผ้าขนหนูเพียงผืนเดียว เป็นอีก 1 คลิปที่ผมจะสาธิตวิธีแก้หลังค่อมไหล่ห่อ และลดปวดสะบักไปในตัว เพียงแต่ความพิเศษของวิธีการในคลิปนี้คือ ไม่เหนื่อย ใช้ผ้าห่มเพียง 1 ผืนก็เพียงพอแล้ว และที่สำคัญ ผู้สูงอายุก็สามารถบริหารตามคลิปนี้สบายๆเลยครับ เพื่อนๆอาจจะยังไม่ทราบกันว่า การที่เรานั่งหลังค่อมนานๆจะทำให้กล้ามเนื้อหน้าอก (pectoralis major+minor) เกิดการตึงตัว พอตึงมากๆจะไปดึงไหล่ของเราให้ลู่ไปด้านหน้าจนดูเป็นคนไหล่ห่อ เมื่อไหล่ห่อนานๆเข้ากล้ามเนื้อรอบๆสะบักก็จะถูกดึงรั้งจนถูกยืดออก พอยืดออกมากๆเข้ากล้ามเนื้อสะบักก็เกิดการอ่อนแรงจึงทำให้เราปวดสะบักเรื้อรัง จนกลายเป็นส่วนหนึ่งของโรค office syndrome นั่นเองครับผม รายละเอียดในคลิป วิธีที่ 1 : นอนทับผ้าขนหนู (นาทีที่ 1:15) วิธีที่ 2 : กางแขน ตบมือ (นาทีที่ 3:30) วิธีที่ 3 : ไขว้ขา บิดเอว (นาทีที่ 5:20) วิธีที่ 4 : กางแขน ยกขาลอยพื้น (นาทีที่ 7:38) วิธีที่ 5 : พนมมือหลัง (นาทีที่ 9:32)



[คลิป VDO 72] 6 ท่า บริหารสะบัก แก้สะบักจม



6 ท่า บริหารสะบัก แก้สะบักจม สำหรับใครที่ทำงานออฟฟิศ ต้องนั่งนาน ลักษณะงานไม่เอื้อให้เคลื่อนไหวร่างกายจนเกิดอาการปวดสะบักอยู่บ่อยๆ พอได้นวด ได้ยืดกล้ามเนื้ออาการก็ดีขึ้น แต่เมื่อกลับไปนั่งทำงานอาการปวดก็กลับมาเหมือนเดิม จะไปออกกำลังกายตามฟิตเนสก็ไม่สะดวก ถ้าเพื่อนๆเจอปัญหานี้อยู่ล่ะก็ ติดตามคลิปนี้ให้ดีนะครับ เพราะในคลิปนี้ผมจะบอกท่าบริหารสะบัก เพื่อลดปวดสะบัก แก้สะบักจม และที่สำคัญเราสามารถบริหารตามคลิปนี้ได้แม้ว่าจะอยู่ในที่ทำงานครับผม รายละเอียดในคลิป ท่าที่ 1 : แอ่นอก ห่อหลัง (นาทีที่ 1:18) ท่าที่ 1 เสริม : (นาทีที่ 2:56) ท่าที่ 2 : ดึงหนังยาง หมุนแขนออก (นาทีที่ 4:03) ท่าที่ 3 : ดึงผ้า ชูแขน (นาทีที่ 5:33) ท่าที่ 4 : ชูแขน ยักไหล่ (นาทีที่ 7:35) ท่าที่ 5 : ดึงผ้า เอียงตัว (นาทีที่ 9:23) ท่าที่ 6 : ท่อนแขน กดโต๊ะ (นาทีที่ 12:34)



[คลิป VDO 71] 5 เทคนิค บริหารคอให้แข็งแรง เพื่อลดปวด ลดตึง



5 เทคนิค บริหารคอให้แข็งแรง เพื่อลดปวด ลดตึง

มาแล้วครับผมตามคำเรียกร้องสำหรับท่าบริหารกล้ามเนื้อคอให้มั่นคงแข็งแรง หรือที่เรียกกันว่าการฝึก core stabilize ของคอนั่นเองครับผม ซึ่งการฝึกลักษณะนี้นอกจากจะช่วยให้กล้ามเนื้อคอแข็งแรงแล้ว ยังช่วยให้อาการปวด ตึงที่คอบ่าลดลงได้ด้วย นอกจากนี้ก็ยังทำให้กระดูกคอของเรามีความมั่นคงมากขึ้น ช่วยลดความเสี่ยงที่จะเป็นกระดูกคอเสื่อม หรือหมอนรองกระดูกคอปลิ้นไปทับเส้นประสาทด้วยนะ 

โดยท่าบริหารมีดังนี้เลย

ท่าที่ 1 : หัวปักพื้น (นาทีที่ 1:35)
ท่าที่ 2 : หัวปักพื้น เหยียดขา  (นาทีที่ 8:22)
ท่าที่ 3 : หัวโขกกำแพง  (นาทีที่ 10:44)
ท่าที่ 4 : เอียงคอ กดพื้น  (นาทีที่ 13:18)
ท่่าที่ 5 : หดคอ ดันหมอน  (นาทีที่ 16:00)