8 ข้อควรรู้
ของคนผ่าเข่าทุกประเภท
ถ้าเพื่อนๆคนไหนที่ไปผ่าเข่ามาแล้ว หรืออยู่ในช่วงรอคิวผ่าเข่าในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้าละก็ เนื้อหาในบทความนี้จะช่วยให้เพื่อนๆเข้าใจเข่าตัวเองมากขึ้นและช่วยลดความกังวลใจกับสิ่งที่เกิดขึ้นหลังผ่าเข่าได้แน่ครับ
แล้วไม่ว่าจะผ่าเข่าแบบไหนมา จะผ่าเล็กอย่างผ่าซ่อมเอ็นไขว้หน้า หรือผ่าตัดใหญ่อย่างผ่าตัดเปลี่ยนข้อก็อ่านได้เหมือนกันครับ เพราะไม่ว่าเราจะผ่าแบบไหน ส่วนใหญ่จะเจอเหตุการณ์ที่ผมกำลังจะพูดถึงเหมือนกันหมดครับผม ส่วนจะมากหรือน้อยก็เป็นอีกเรื่องนึงนะ
1) เข่าต้องบวม :
=> ดูเหมือนเรื่องเข่าบวมหลังผ่าตัดจะเป็นเรื่องที่คนไข้กังวลกันมากที่สุด ซึ่งการที่เข่าบวมมันเป็นเรื่องปกติมากครับ ถ้าเนื้อเยื่อในร่างกายส่วนไหนเสียหาย บริเวณโดยรอบมันต้องบวมเป็นเรื่องธรรมดาม๊ากมากเลย
เนื่องจากว่า พอเนื้อเยื่อเราเสียหาย บาดเจ็บ อักเสบอะไรก็ตามแต่ มันบ่งบอกว่าเส้นเลือดฝอยที่อยู่โดยรอบมันฉีกขาด เสียหายตามไปด้วย พอเส้นเลือดมันลำเลียงเลือดไม่ดี เลือดก็ตกค้างอยู่บริเวณนั้นมากขึ้นจนทำให้เกิดการบวมขึ้น แค่นั้นเอง
ถ้าให้เปรียบเทียบ เส้นเลือดคนเราก็เหมือนกับถนนนั่นแหละครับ สมมติถนนมี 4 เลน แต่พังไป 2 เลน วิ่งได้จริงแค่ 2 แต่ปริมาณรถมีเท่าเดิม สิ่งที่เกิดขึ้นก็คือ "รถติด" ใช่มั้ยครับ เส้นเลือดที่เสียหายหลายส่วน การลำเลียงมันไม่ดีเลือดก็ไปตกค้างมากจนดูบวม แค่นั้นเอง
นานมั้ยกว่าจะหายบวม?
ขึ้นอยู่กับขนาดแผลครับ ถ้าแผลใหญ่มากอย่างคนผ่าตัดเปลี่ยนข้อเข่า เนื้อเยื่อมันเสียหายเป็นบริเวณกว้างจากรอยผ่า กว่าเนื้อเยื่อจะสมานตัวเองก็เป็นปกติดีก็ใช้เวลา การบวมก็กินเวลานานขึ้นเช่นกัน ซึ่งบางคน 4 เดือนกว่ายังบวมตุ่ยอยู่ก็มีเยอะแยะ
ส่วนคนที่ผ่าส่องกล้อง บางคนเห็น 2 เดือนหายบวม แต่บางคน 3 เดือนแล้วยังไม่หายบวมก็มีเยอะแยะครับ มันขึ้นอยู่กับร่างกายของเราเอง และการฟื้นฟูหลังผ่าเข่าด้วย ถ้าหมั่นบริหารเข่า กระดกปลายเท้าขึ้นลงบ่อยๆ ให้กล้ามเนื้อได้มีการขยับ พอกล้ามเนื้อขยับมันก็ปั๊มเอาสารนํ้าที่กองค้างอยู่จนทำให้ดูบวม มันก็ไล่สารนํ้าเหล่านี้ออกไป จนบวมน้อยลงได้
ลักษณะแผลของคนผ่าตัดเปลี่ยนข้อเข่า
ทำไมบริหารเข่าจนหายบวมแล้ว แต่พอเดิน ยืนสักพักมันถึงบวมใหม่ได้ละ?
เลือด นํ้าเหลือง หรือสารนํ้าในร่างกายคนเราเป็นของเหลวครับ ซึ่งของเหลวเหล่านี้จะไหลจากที่สูงลงสู่ที่ตํ่าเสมอ พอเรายืน เดิน สารนํ้าในร่างกายมันก็พร้อมใจกันไหลลงไปที่ส่วนขาของเราเป็นเรื่องปกติ แต่ในคนที่ร่างกายปกติดีไม่มีการบาดเจ็บ กล้ามเนื้อก็ช่วยบีบให้เลือดไหลกลับไปที่หัวใจได้ตามปกติ ร่วมกับหลอดเลือดไม่มีการอุดตันหรือเสียหาย การไหลเวียนจึงทำได้ปกติไม่บวม
แต่คนที่ผ่าตัดมา มันทำให้เส้นเลือดฝอยหลายส่วนฉีกขาด การไหลกลับของเลือดจึงทำได้ไม่ดี แถมด้วยการบาดเจ็บจากการผ่า ยิ่งทำให้เราไม่อยากใช้กล้ามเนื้อด้วย พอกล้ามเนื้อไม่ได้ขยับ การปั๊มเลือดกลับก็แย่เข้าไปอีก แถมเรายังต้องยืน เดิน เลือดมันเลยยิ่งเทไปกองที่ขามากเกินกว่ากำลังที่เนื้อเยื่อบริเวณนั้นจะปั๊มเลือดให้ไหลกลับไปที่หัวใจได้ สุดท้ายเราจึงขาบวม เข่าบวมทุกครั้งที่ยืนนั่นเองครับ (บางคนแค่นั่งห้อยขาก็บวมแล้ว ซึ่งก็ไม่ใช่เรื่องแปลกนะ)
คลิปแก้เข่าบวมหลังผ่า
ดูวิธีการลดบวมตามคลิปนี้เลยครับ คลิปที่ 125 : 3 วิธีแก้เข่าบวม หลังผ่าเข่า https://youtu.be/riKk4noHzWc
2) อาการปวดเป็นเรื่องธรรมดาที่ต้องเจอ
=> ทันทีที่มีดกรีดลงไปที่เนื้อเยื่อ ไม่ว่าจะกรีดกว้างหรือกรีดแคบก็ตาม เนื้อเยื่อจะได้รับการบาดเจ็บทันที แล้วร่างกายจะตอบสนองต่อการบาดเจ็บโดยการหลั่งสารอักเสบขึ้นมาบริเวณเนื้อเยื่อที่เสียหายจากแผลผ่าตัด
ซึ่งสารอักเสบนี้แหละที่ทำให้เราปวดหลังจากผ่าตัด ยิ่งเนื้อเยื่อเสียหายมากเท่าไหร่ กินวงกว้างแค่ไหน อาการปวดจะยิ่งมากขึ้นเท่านั้น แล้วการที่ร่างกายหลั่งสารอักเสบจนทำให้เรารู้สึกปวดขึ้นมา มันก็มีข้อดีเหมือนกันนะ เพราะมันทำให้เราเลี่ยงการใช้งานร่างกายบริเวณที่บาดเจ็บอยู่ ให้ร่างกายได้มีเวลาพักฟื้นตัวเองได้อย่างเต็มที่นั่นเองครับ
ลองคิดดูนะ ถ้าเราไม่รู้สึกปวดเข่าแล้ว แต่เนื้อเยื่อมันยังไม่สมานตัวกันดีจะเกิดอะไรขึ้น สมมติเราชอบเล่นบอล พอผ่าเสร็จดูแผลภายนอกเห็นว่าแห้งสนิทดีแล้ว วันรุ่งขึ้นเรารีบลงสนามไปเตะบอลกับเพื่อนๆทันที ทั้งๆที่เนื้อเยื่อภายในข้อเข่ามันยังไม่สมานตัวยึดติดกันดีเลย ผลลัพท์มันก็เสี่ยงที่จะทำให้กล้ามเนื้อ เส้นเอ็น หลอดเลือดภายในฉีกขาดมากกว่าเดิม แล้วหายช้ากว่าเดิมได้นั่นเองครับ
ถ้าพูดแบบนี้ก็หมายความว่า เราไม่ควรขยับร่างกายส่วนที่บาดเจ็บเลยน่ะสิ?
มันแล้วแต่เคสครับ อย่างเคสผ่าเอ็นไขว้หน้าขาดแบบส่องกล้องซึ่งแผลจะเล็ก เคสนี้ประมาณวันที่ 3 ก็ให้ขยับเข่าได้แล้ว แต่ถ้าเคสผ่าตัดเปลี่ยนข้อเข่าจากเข่าแตกเพราะอุบัติเหตุล้มเข่ากระแทกพื้น แบบนี้ก็จะถูกใส่เฝือกที่เข่าหลังผ่าเสร็จแน่นอน เพื่อให้กระดูกมันเชื่อมกันดีก่อนตามระยะเวลา แล้วถึงค่อยขยับเข่าได้นะครับ
3) ยังไงข้อเข่าก็ต้องติด
=> เป็นอีกเรื่องที่คนผ่าเข่าจะกลัวว่าเข่าจะติดกัน คือจะบอกว่าไม่ต้องกลัวครับ เข่าติดแน่นอน!! แต่จะติดมากหรือน้อย จะหายช้าหรือเร็วมันอยู่ที่การฟื้นฟูหลังผ่าเข่าเนี่ยแหละครับ
เหตุที่เข่าติดหลังผ่า ไม่ว่าจะผ่าตัดเล็กแค่ไหนก็ตาม เนื่องจากทันทีที่เนื้อเยื่อเสียหาย ฉีกขาด ร่างกายมันก็จะพยายามซ่อมแซมฟื้นฟูตัวเอง แต่การจะซ่อมแซมตัวเองได้ดีนั้น ร่างกายต้องพยายามยึดเนื้อเยื่อและข้อเข่าให้อยู่นิ่งๆให้ได้มากที่สุดก่อน เพื่อให้เกิดการซ่อมแซมได้เต็มที่
นั่นคือ ร่างกายจะสร้างพังผืดโดยรวบส่วนที่บาดเจ็บให้หนาตัวขึ้น และทำให้เส้นเอ็นโดยรอบแข็งตัวขึ้น (ซึ่งปกติก็เหนียวและแข็งอยู่แล้วนะ) เพื่อให้ยากต่อการเคลื่อนไหวข้อเข่า
ถ้าให้เปรียบเทียบกับการเย็บผ้าที่ขาดออกจากกันเป็น 2 ท่อน เราจะเย็บผ้าให้กลับมาเชื่อมกันได้สนิทดีดังเดิมคือ เราต้องเอาผ้ามาประกบกัน แล้วค่อยร้อยเข็มลงไปตรงผ้าทั้ง 2 ที่ประกบกันอยู่ แล้วมือเราต้องนิ่งด้วยถึงจะทำได้
แต่ลองคิดดูนะ ถ้าขณะเราเย็บผ้าอยู่แล้วมีเด็กที่ไหนไม่รู้มาดึง ฉุด กระชากลากผ้าที่เรากำลังเย็บอยู่ตลอดเวลา เพื่อนๆคิดว่าเราจะเย็บผ้าได้มั้ยครับ เช่นเดียวกันครับ ร่างกายจะสมานเนื้อเยื่อกันได้ดีก็ต่อเมื่อ ต้องให้ข้อต่อและกล้ามเนื้ออยู่นิ่งๆก่อนโดยการสร้างพังผืดและทำให้เอ็นแข็งขึ้น เท่านั้นยังไม่พอ ร่างกายยังหลั่งสารอักเสบออกมาอีกด้วยเพื่อเตือนว่า "อย่าพึ่งใช้ร่างกายตรงนี้ ฉันยังไม่พร้อม ขอซ่อมก่อนเด้อ"
ซึ่งเคสที่เราไม่ควรดัดเข่า หรือขยับข้อเข่าเลยจนกว่าหมอจะสั่งให้ดัดได้ก็ ส่วนใหญ่จะเป็นเคสกระดูกหักหักครับ เช่น ล้มเข่ากระแทกพื้นจนลูกสะบ้าแตกในผู้สูงอายุ หรือกระดูกหน้าแข้งร้าวจากการเล่นกีฬาที่ต้องปะทะกันแรงๆ แต่ถ้าเป็นเคสผ่าตัดเอ็นไขว้หน้าธรรมดา หรือผ่าตัดเปลี่ยนข้อ ก็สามารถดัดเข่าได้ภายใน 1 อาทิตย์ที่ผ่าเลย เพราะไม่ได้มีปัญหากระดูกแตกอะไร แต่ทั้งนี้ก็ต้องปรึกษาหมอ หรือนักกายภาพที่ดูแลเราให้ดีก่อนว่าดัดได้หรือยังนะครับ
คลิปที่ 82 : วิธีดัดเข่าให้เหยียดตรงได้ https://youtu.be/CDypMUAWARM
วิธีดัดเข่าให้ตรง
คลิปที่ 127 : วิธีดัดเข่าให้งอ https://youtu.be/dAH1RZ7uYWQ
วิธีดัดเข่าให้งอหลังผ่า
=> เรื่องข้อเข่าติดคงเป็นปัญหาหนึ่งที่คนผ่าเข่าต้องพบเจอ แต่ปัญหาต่อมาก็คือ ดัดเข่ามานานแล้วทำไมเข่ายังงอ-เหยียดได้ไม่สุดซะที โดยเฉพาะคนที่เข่าติดทั้งงอและเหยียดพร้อมๆกัน
คนส่วนใหญ่อยากหายไวๆ ใจถึง ทนเจ็บได้ ดัดเองได้ เลยจัดการดัดเองอย่างเต็มที่ เวลาดัดก็ดัดเข่าให้เหยียดอย่างเต็มที่เลย พอเข่าเหยียดจนสุดแล้ว ก็ดัดเข่าให้งอต่อวนวันนั้นทันที ทีนี้พอดัดเข่าในท่างอเสร็จก็มาลองเหยียดเข่าดูอีกที ปรากฎว่าเข่าที่เคยเหยียดสุด มันกลับมาติดงอใหม่ เจอแบบนี้จะทำไงดี?
สำหรับคนที่เข่าติดทั้งงอและเหยียดนะ ผมแนะนำเลยว่า ให้เราเลือกดัดเข่าในทิศทางใดทิศทางหนึ่งให้สุดไปก่อนเลย โดยเลือกเอาความจำเป็นในชีวิตประวันเป็นหลัก เช่น ต้องรีบกลับไปทำงานให้ไวที่สุด ต้องเดินเยอะแม้เข่าจะยังไม่หายดี
ถ้าเป็นแบบนี้ผมแนะนำว่าให้เราดัดเข่าในท่าเหยียดให้สุดก่อนเลย เพื่อให้เราได้ใช้ขาข้างที่เจ็บช่วยยันตัวในการเดิน แล้วในระหว่างวันก็อย่างอเข่ามากไป เพื่อไม่ให้เส้นเอ็นและพังผืดมันกลับมายึดให้อยู่ในท่างอนั่นเอง พอเราแน่ใจแล้วว่าเข่าเหยียดตรงได้เองโดยที่ไม่ต้องช่วยดัดแล้วติดต่อกันอย่างน้อย 1 สัปดาห์ เราก็ค่อยเริ่มดัดเข่าในท่างอต่อไป
ค่อยๆดัดไปทีละทิศทางนะครับ จะงอก็งออย่างเดียว ถ้าจะดัดให้เหยียดก็เหยียดอย่างเดียว เอาทีละอย่างนะครับ
5) อาจมีชาที่เข่าบ้าง
=> เรื่องของอาการชาบริเวณที่ผ่าเข่านั้น จะเกิดขึ้นในบางคนนะครับ บางคนจะชาแค่ผิวๆเหมือนหนังมันด้านๆ ความรู้สึกจะไม่เท่ากันกับข้างปกติ บางคนก็แย่กว่านั้นคือ รู้สึกคัน ชาหนา บ้างก็แสบเหมือนนํ้าร้อนลวกบริเวณเข่า
ซึ่งอาการชาจากการผ่าตัดไม่ใช่เรื่องแปลกอะไรนะครับ เพราะการผ่าตัดแต่ละครั้งมันก็มีบ้างที่จะตัดไปโดนเส้นประสาทส่วนย่อยที่ทำหน้าที่รับความรู้สึกบริเวณผิวหนังรอบๆเข่า พอเส้นประสาทเสียหาย การส่งสัญญาณประสาททำได้ไม่ดีเลยเกิดอาการชาขึ้น
ส่วนจะชามากน้อยแค่ไหนก็ขึ้นอยู่กับขนาดแผลที่ผ่าว่าใหญ่แค่ไหน และความเสียหายของเส้นประสาทว่าเสียหายจากรอยมีดกรีดมากแค่ไหนครับผม แต่ก็ไม่ต้องกังวลว่าตัดโดนเส้นประสาทแล้วจะทำให้เราเป็นอัมพาตนะครับ เส้นประสาทเหล่านี้เป็นเส้นย่อยเท่านั้นเอง ไม่มีผลร้ายแรงอะไรมากนอกจากชา คัน หรือแสบร้อน ซึ่งจะทำให้เรารำคาญมากกว่า
ส่วนวิธีแก้อาการชาแบบทำเองนั้น ง่ายที่สุดเลยก็คือ การหาแผ่นประคบร้อนมาประคบตรงที่ผ่า แต่ตรงที่ผ่าต้องไม่มีบวม แดง ร้อนนะ ไม่งั้นเข่าจะบวมกว่าเดิมได้ หรือไม่ก็ใช้การประคบเย็นก็ได้ครับผม
ส่วนจะหายชาเมื่อไหร่นั้น ตอบไม่ได้ครับ อะไรที่เกี่ยวข้องกับการบาดเจ็บของเส้นประสาท มันกำหนดเป็นตัวเลขที่แน่นอนไม่ได้เลย บางคนไม่ชาเลย บางคนก็ 3 เดือน บางคน 7 ปียังไม่หายชาเลยก็มีเยอะนะ แต่อย่างที่บอกไปครับ อาการที่เกิดขึ้นมันแค่สร้างความรำคาญนะ
ลิงค์บทความ : ประคบร้อน-เย็น ใช้ต่างกันยังไง?
บทความประคบร้อนหรือเย็น ใช้ต่างกันยังไง
6) กำลังกล้ามเนื้อจะลดลง
=> พอเราผ่าตัดมา เนื้อเยื่อรอบๆเข่าบาดเจ็บ พอบาดเจ็บเราก็เลี่ยงการใช้งานกล้ามเนื้อรอบๆเข่า แล้วพอหยุดการใช้งานไปผลที่ตามมาคือ กำลังกล้ามเนื้อเริ่มอ่อนแรงลงทันที แล้วถ้าหยุดการใช้งานกล้ามเนื้อโดยสิ้นเชิงติดต่อกัน 1 เดือน (เช่น คนที่ใส่เฝือกเข่า) กล้ามเนื้อก็เกิดการฝ่อลีบอย่างเห็นได้ชัด
คนที่ผ่าตัดมา พอเห็นขาตัวเองลีบเล็กลงก็จะตกใจกันยกใหญ่ แล้วพาลเข้าใจว่าตัวเองต้องกลายเป็นอัมพาตแน่ๆ ขาต้องเล็กเหมือนคนเป็นโปลิโอชัวๆ คือ จะบอกว่าขาลีบได้ ฝ่อได้ เราก็สามารถฟื้นฟูขาให้กลับมาเต่งตึง กระชับได้เหมือนกันครับ กระบวนการที่กล้ามเนื้ออ่อนแรง ฝ่อลีบมันเป็นเรื่องธรรมดามากเลยครับผม
ทันทีที่หมอเริ่มให้เราฝึกทำกายบริหารเข่าได้ แล้วฝึกไปเรื่อยๆอย่างเป็นขั้นเป็นตอน เริ่มจากท่ากายบริหารง่ายๆ ความหนักไม่มาก พอกล้ามเนื้อเริ่มฟื้นตัวดี อาการปวดลดลงก็เพิ่มความหนักขึ้น กายบริหารท่าที่ยากขึ้น กำลังกล้ามเนื้อมันก็จะกลับมาแข็งแรงเหมือนเดิม และแน่นอนกล้ามเนื้อที่เคยฝ่อลีบก็จะกลับมาเต่งตึงดังเดิมด้วยเช่นกันนะ
ส่วนจะกลับมาแข็งแรงอย่างเห็นได้ชัดจะใช้เวลานานแค่ไหนนั้น อันนี้ขึ้นอยู่กับความขยันของการทำกายบริหาร และเรื่องโภชนาการของเราเองนะ แต่โดยส่วนใหญ่ก็ประมาณ 3 เดือนครับ ถ้าฝึกอย่างต่อเนื่อง และทำอย่างถูกต้องนะ
คลิปที่ 50 : 5 วิธี ดูแลเข่าหลังผ่าตัด https://youtu.be/-zIfJICfhfo
คลิป วิธีดูแลเข่าหลังผ่า
7) มีเสียงก๊อกแก๊กในเข่า
=> อีกหนึ่งเรื่องกังวลที่คนผ่าเข่ามานานพากันใจหายแว็บทุกครั้งที่ได้ยินเสียงดังในเข่า แล้วอดคิดไม่ได้ว่า เข่ามันจะหลุดออกมามั้ย เอ็นในเข่ามันจะขาดอีกรอบ หรือเอ็นมันหลวมทำให้ข้อเคลื่อน สาระพัดความกังวลที่คนไข้ทักมาคุยกับผม
ถ้าคนไข้พูดถึงเรื่องเสียงดังในเข่าเมื่อไหร่ ผมจะถามกลับไปก่อนเลยว่า "ตอนที่มีเสียงในเข่า มันปวดแปล็บในเข่ามั้ย หรือแค่มีเสียงดังเฉยๆ?" ถ้าตอบมาว่า "แค่มีเสียงดังเฉยๆ" ไม่ว่าจะดังถี่ หรือนานๆครั้งดังทีก็ตาม ผมก็จะบอกว่า ไม่มีอะไรน่ากังวลครับ แค่ข้อมันหลวมจากกล้ามเนื้อ และเอ็นรอบๆข้อเข่ามันยังไม่แข็งแรงพอ เวลาขยับเข่ามันเลยเกิดเสียงขึ้นแค่นั้นเอง
ซึ่งการที่เกิดเสียงในเข่า ถ้าเป็นเสียงครืดๆเหมือนมีอะไรมาขูดกันทุกครั้งที่งอ-เหยียดเข่าในบางมุมละก็ คาดว่าเป็นผลจากข้อกระดูกเสียดสีกันเป็นธรรมดา แต่ถ้าเป็นเสียงดังป๊อกแบบนานๆทีถึงจะดังละก็ อันนี้เกิดจากฟองอากาศในนํ้าเลี้ยงข้อมันแตกตัวครับ ก็ไม่มีอะไรน่ากังวลอีกเช่นกัน
ถ้าเราฝึกกำลังกล้ามเนื้อรอบๆเข่าให้มั่นคงแข็งแรงดี เสียงดังในเข่ามันก็จะลดลงได้เองตามลำดับครับ หรือถ้าไม่ลดลงก็ไม่ได้มีผลเสียอะไรเช่นกันนะ
คลิปที่ 68 : วิธีบริหารข้อเข่าหลังผ่าเอ็นไขว้หน้า https://youtu.be/FDzRP2B6Ci8
วิธีบริหารข้อเข่าหลังผ่าเอ็นไขว้หน้า
คลิปที่ 3 : สาเหตุเสียงดังในข้อ https://youtu.be/4FuVuf-6jCI
สาเหตุเสียงดังในข้อ
8) หมอบอก เดินลงนํ้าหนักได้แค่ 50% มันเดินกันยังไง?
=> อันนี้ก็เป็นอีกเรื่องหนึ่งที่หลายคนมองข้ามไป ในคนที่ผ่าเข่ามาใหม่ๆไม่ว่าจะผ่าแบบไหนก็ตาม ในช่วงแรกหลังจากผ่า เราอาจจะยังไม่สามารถเดินลงนํ้าหนักขาข้างที่ผ่าได้ 100%
หมอก็จะบอกว่าให้เราเดินลงนํ้าหนักขาข้างนั้นก่อน 50% นะ อย่าพึ่งลงเต็มที่ พร้อมทั้งบอกข้อควรระวังนู่นนี่นั่นต่างๆนาๆ คนที่ผ่ามาใหม่ๆก็คงมึนๆอยู่ หมอพูดอะไรมาก็คงพูดครับๆๆ/ค่ะๆๆ อย่างเดียว จนกระทั่งเรากลับมาบ้านแล้วต้องเดินจริงๆนั่นแหละ ถึงนึกสงสัยว่า แล้วเดินลงนํ้าหนัก 50% ที่หมอบอกเค้าเดินกันยังไงหว่า?
พอนึกไม่ออกว่าจะเดินยังไง ก็ไม่ยอมเดินลงนํ้าหนักขาข้างนั้นเลย รอให้แผลหายก่อนแล้วค่อยเดินอะไรงี้ จนทำให้การฟื้นฟูกลับมาเดินได้จริงๆต้องใช้เวลานานกว่าปกติ ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องน่าเสียดายโอากาสในการใช้ชีวิตพอสมควรนะ
ลงนํ้าหนักที่ปลายเท้า จะช่วยลดการปวดเข่าขณะเดินได้
วิธีการลงนํ้าหนักขา 50% มันก็ตรงตามชื่อเลยนะ คือ เรายืนลงนํ้าหนักขาแค่ครึ่งเดียวเมื่อเทียบกับการยืนปกติ โดยมีไม้เท้าช่วยพยุงตัวไว้ แล้วเพื่อให้การคุมการลงนํ้าหนักขาทำได้ดี เราจะไม่ลงนํ้าหนักเต็มฝ่าเท้านะ เราจะลงนํ้าหนักแค่ปลายเท้าครับ เหมือนกับเดินเขย่งหน่อยๆ
ซึ่งการจิกปลายเท้าลงแบบนี้จะช่วยลดแรงกระแทกที่เข่าได้ ในคนที่ปวดเข่ามากๆเวลาเดินในช่วงแรก การเดินแบบนี้จะช่วยให้เราปวดน้อยลงได้ครับผม จนเมื่อหมอบอกให้ลงนํ้าหนักขาได้เต็มที่ เราก็ค่อยเดินลงนํ้าหนักเต็มฝ่าเท้าตามปกติไปนะครับ
สรุป
สำหรับเนื้อหาที่เพื่อนๆอ่านจบไปเป็นเพียงข้อมูลคร่าวๆที่ผมพบเจอมาแล้วมาเล่าสู่กันฟัง จริงๆแล้วรายละเอียดการรักษา หรือปัญหาของคนที่ผ่าเข่ามายังมีอีกมาก ถ้าเราไม่แน่ใจในส่วนไหนเพื่อนก็สามารถทักเข้ามาสอบถามเพิ่มเติมได้ใน Line ID : @doobody
แต่ทางที่ดี ผมแนะนำให้ไปพบกับนักกายภาพใกล้บ้านเลยดีกว่า ให้เค้าตรวจร่างกาย ประเมินข้อเข่าเราโดยตรงจะดีกว่า เพราะคนที่ได้ตรวจโดยตรงจะเห็นปัญหาและให้คำแนะนำได้ดีกว่าคนที่คุยผ่านกันตัวอักษรนะครับ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น