วันจันทร์ที่ 23 พฤศจิกายน พ.ศ. 2558
ใช้เข็มขัดพยุงหลังผิดๆ พาลให้ปวดหลังตลอดชีวิต
ใช้เข็มขัดพยุงหลังผิดๆ พาลให้ปวดหลังตลอดชีวิต
เข็มขัดพยุงหลัง หรือ back support เป็นอุปกรณ์ที่พบเห็นได้ทั่วไปตามท้องตลาด และเป็นอุปกรณ์ที่ขาดไม่ได้สำหรับคนที่ต้องทำงานยกของ แบกของ พนักงานขับรถ หรือแม้กระทั่งในผู้ป่วยที่ผ่าหลัง ทุกคนล้วนบอกเป็นเสียงเดียวกันว่า "ขาดเจ้านี่ไม่ได้เลย ใส่แล้วสบายหลังดี ถ้าไม่ได้ใส่จะรู้สึกปวดหลัง ไม่สบายหลังทำงานลำบาก" ถ้าท่านมีความรู้สึกดังกล่าว ผมขอบอกไว้ตรงนี้เลยครับว่า คุณอาจมีภาวะกล้ามเนื้อหลังฝ่อ หรือภาวะกล้ามเนื้ออ่อนแรงเรียบร้อยแล้ว ซึ่งภาวะดังกล่าวนั้นอาจจะไม่ได้อันตรายมากนอกจากแค่รู้สึกปวดหลังเมื่อไม่ได้ใส่ back support แต่เมื่อวันเวลาผ่านไปนานหลายปีเข้า ความเสี่ยงที่จะเกิดโรคกระดูกสันหลังเสื่อม หรือหมอนรองกระดูกสันหลังทับเส้นประสาทจะตามมาในอนาคตได้ สิ่งที่ช่วยให้สบายในวันนี้อาจนำไปสู่หายนะได้ในอนาคตก็ว่าได้
เข็มขัดพยุงหลังทำให้ปวดหลังได้ยังไง?
ก่อนจะอธิบายรายละเอียด ผมอยากให้เข้าใจคอนเซ็ปของร่างกายเราว่า "ถ้าไม่ใช้ ถือว่าเป็นส่วนเกินต้องกำจัดทิ้ง" โอเค เราเข้าใจคอนเซ็ปของร่างกายแบบง่ายกันแล้วเนอะ แล้วแทนที่ผมจะอธิบายยาวๆภาษาวิชาการชวนปวดหัวนั้น ลืมไปได้เลยครับ ผมจะใช้ภาษาบ้านๆเข้าใจง่ายๆกัน
ถ้าให้เปรียบเทียบง่ายๆ กล้ามเนื้อคนเราก็เปรียบเสมือนโอ่งใบหนึ่งที่สามารถปรับเปลี่ยนขนาดได้ตามการใช้งาน ถ้ามีคนมาใช้บริการตักนํ้าในโอ่งเยอะๆ เจ้าโอ่งใบนั้นจะรู้ตัวว่าตัวเองเป็นที่ต้องการมากจึงขยายตัวเองให้มีขนาดใหญ่ขึ้นเพื่อรองรับปริมาณนํ้าให้มากขึ้น คนที่มาตักนํ้าจะได้ตักนํ้าได้อย่างต่อเนื่อง แต่ในขณะเดียวกันถ้ามีคนมาใช้บริการตักนํ้าในโอ่งใบนั้นน้อยมากๆหรือแทบไม่มีใครมาตักนํ้าในโอ่งกันเลย เจ้าโอ่งใบนั้นก็จะปรับตัวให้เหมาะสมกับสถานการณ์ที่เป็นอยู่ นั่นคือการลดขนาดตัวมันเองให้เล็กลง ก็ในเมื่อไม่มีคนมาตักนํ้ากับฉันเยอะๆแล้วจะให้ฉันขยายตัวเองให้ใหญ่ทำไม
ร่างกายคนเราก็เช่นเดียวกัน ถ้ากล้ามเนื้อมัดไหนไม่ได้ถูกใช้ ร่างกายคนเราจึงให้สารอาหารกับกล้ามเนื้อมัดนั้นน้อยลง พูดง่ายๆคือ จะให้สารอาหารเยอะๆไปทำไมในเมื่อมันใช้พลังงานไม่คุ้มกับสิ่งที่ได้ เหมือนกับพนักงานที่ได้เงินเดือน 3 หมื่นแต่มันดันทำงานแค่ 1 หมื่น ขาดทุนไป 2 หมื่น เจ้านาย(ร่างกาย)จึงปรับลดเงินเดือนให้เหลือหมื่นเดียวตามการใช้งานจริง
กล้ามเนื้อหลังที่เราใส่เข็มขัดพยุงหลังก็เหมือนกันครับ เจ้าเข็มขัดพยุงหลังเนี่ยมันช่วยพยุงหลังของเรา นั่นเท่ากับว่ากล้ามเนื้อบริเวณหลังนั้นใช้แรงน้อยลง เนื่องจากมีเข็มขัดช่วยพยุงอยู่ และเมื่อเราติดนิสัยชอบใส่ back support อยู่ตลอดเวลา ยังจำคอนเซ็ปเดิมได้มั้ยครับ "ถ้าไม่ใช้ ถือว่าเป็นส่วนเกินต้องกำจัดทิ้ง" ทีนี้ละครับหายนะจะบังเกิด ร่างกายเราจึงปรับตัวโดยการให้กล้ามเนื้อหลังนั้นมีขนาดเล็กลง มีมวลกล้ามเนื้อน้อยลง(ลดขนาดโอ่ง) เพื่อให้สารอาหารไปเลี้ยงบริเวณนั้นน้อยลง (จะให้สารอาหารแกทำไมในเมื่อแกใช้ไม่คุ้มกับสิ่งที่แกทำงาน) เมื่อเกิดวงจรนี้นานๆเข้าจะพบว่าความแข็งแรงและกำลังกล้ามเนื้อของเราลดลงไปอย่างมาก ขณะเดียวกันก็ยังคงต้องรับนํ้าหนักจากร่างกายอยู่ตลอดเวลา ในเมื่อใช้งานกล้ามเนื้อหลังมาก แต่แรงไม่มี มันเลยประท้วงเป็นอาการปวดขึ้น นี่จึงเป็นจุดเริ่มต้นของอาการปวดหลังนั่นเองครับ และหากยังไม่ได้รับการแก้ไขที่ถูกต้อง(เพิ่มความแข็งแรงกล้ามเนื้อ) ก็จะทำให้เกิดอาการปวดหลังเรื้อรังและมีความเสี่ยงที่จะทำให้เกิดโรคกระดูกสันหลังเสื่อมและโรคหมอนรองกระดูกทับเส้นประสาทตามมาอีก เกิดเป็นวงจรอุบาตรขึ้น
แล้ววิธีการใช้ back support ที่ถูก ต้องทำยังไงละ?
ถึงแม้ผมจะบอกว่าการใส่ back support จะเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เกิดอาการปวดหลังจนบางท่านอาจจะกลัว เลิกใช้แล้วเอาไปโยนทิ้งกัน จริงๆแล้วเราใช้ได้ตามปกตินะครับ แต่ให้ดูตามความเหมาะสมมากกว่าคือ ใช้เมื่อจำเป็นต้องยกของหนัก ใช้เมื่อต้องทำกิจกรรมที่ก้มๆเงยๆ ใช้เมื่อต้องนั่งรถเดินทางไกลแล้วปวดหลัง ซึ่งเมื่อทำกิจกรรมดังกล่าวเสร็จแล้วให้ถอดทันที หรือในกรณีมีความจำเป็นต้องใส่ติดต่อกันเป็นเวลานานจริงๆก็ไม่ควรใส่นานเกิน 2 ชั่วโมงนะครับ
แต่ทั้งนี้ทั้นนั้นก็มีข้อยกเว้นด้วยนะ เช่น ในกรณีผู้ป่วยที่เข้ารับการผ่าตัดหลังมาจำเป็นต้องใส่ back support เพื่อช่วยพยุงหลัง และลดปวดจนกว่าจะฝึกกำลังกล้ามเนื้อหลังให้แข็งแรงจึงจะถอดออกได้
อ่านมาถึงตรงนี้หลายท่านคงจะแอบเถียงอยู่ในใจว่า "จะให้ทำยังไงละ ถ้าไม่ใส่ก็ปวดอยู่ดี ปวดจนทำงานไม่ได้เลย" ทุกปัญหามีทางออกเสมอครับ โดยมี 2 แนวทางดังนี้ คือ
1) ปรับเปลี่ยนพฤติกรรม
เช่น จากเดิมที่เคยนั่งทำงานติดต่อกันเป็นเวลานานหลายชั่วโมง ก็ปรับเปลี่ยนโดยลุกขึ้นยืนเปลี่ยนอิริยาบททุกๆ 1 ชั่วโมงเพื่อลดภาระงานของกล้ามเนื้อหลัง หรือกรณีที่ชอบก้มหลังยกของ ให้เปลี่ยนเป็นนั่งยองๆกับพื้นแล้วยกของแทน เพื่อป้องกันและลดภาระงานของกล้ามเนื้อหลัง ไม่ยืนเอี้ยวตัวส่งของหรือยกของ ไม่ใส่ส้นสูง เป็นต้น ซึ่งถ้าเราปรับเปลี่ยนพฤติกรรมทำร้ายหลังเราได้ อาการปวดหลังอาจจะยังคงอยู่ (อ้าว!) แต่จะไม่ทำให้อาการปวดหลังแย่ลงมากกว่าเดิมนั่นเอง(อ๋อ)
2) ออกกำลังกายบริหารกล้ามเนื้อหลัง
พอพูดถึงการออกกำลังกาย หลายท่านคงจะคลื่นไส้หน้ามืดอาเจียนร้องอี๋กันเป็นแถว ฮาๆ ยังจำเรื่องโอ่งที่ผมเล่าให้ฟังกันได้มั้ยครับ คนที่ใส่ back support เป็นเวลานานจนปวดหลัง ก็เปรียบเหมือนโอ่งใบเล็กที่รับสารอาหารได้น้อย ใช้แรงงานได้น้อยลง ฉะนั้น เราต้องเพิ่มขนาดโอ่งกันครับ และวิธีการเพิ่มขนาดโอ่งมีอยู่อย่างเดียวคือ การออกกำลังกายนั่นเอง และท่านก็ไม่ต้องกังวลใจว่าการออกกำลังกายจะหนักหนาสาหัสเหมือนนักกีฬา นักกล้ามที่ต้องอยู่ฟิตเนสไม่เห็นเดือนไม่เห็นตะวันกัน อันนั้นก็เกิดนไปนิด ไม่ถึงขนาดนั้นหรอกครับ วิธีบริหารกล้ามเนื้อหลังของผมนั้นใช้เวลาแค่ 40 นาทีต่อวันเอง และสามารถทำได้เองที่บ้านด้วย ซึงผมจะยกไว้ในบทความถัดไปนะครับ กับเรื่อง "5 เทคนิคดูแลสุขภาพหลัง ไม่ให้ปวดตลอดชีวิต" แล้วเจอกันนะครับ
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
สมัคร pg slot สมัครสมาชิก เพื่อรับความสนุกสนานที่กำลังจะเกิดขึ้นอย่างไม่เคยสัมผัสมาก่อนกับ pg slot เว็บสล็อตออนไลน์ที่กำลังมาแรงที่สุดในปีนี้ กับเกมสล็อต
ตอบลบ