อาการปวดหลัง กับรองเท้าส้นสูง
ความสวยที่มาคู่กับอาการปวด
มีคนไข้คนนึงเป็นผู้หญิงมีอาการปวดหลังเข้ามารับการรักษากับผม ตรวจร่างกายก็พบว่าเป็นกล้ามเนื้อหลังอักเสบเรื้อรังทั่วไป ไม่มีโรคแทรกซ้อนอื่นๆ รักษาทางกายภาพเสร็จอาการปวดก็ลดลง แล้วแนะนำท่าออกกำลังกล้ามเนื้อหลังไปตามปกติ แต่เพียงไม่กี่วันคนไข้ก็กลับมาใหม่ด้วยอาการปวดหลังเดิมๆ มารักษาแทบจะทุกอาทิตย์จนผมเอะใจว่าทำไมรักษาหายดีแล้วถึงกลับมาปวดใหม่ได้ง่ายจัง แถมลักษณะงานทีทำก็ไม่ได้ยกของหนักหรือเป็นงานที่ต้องใช้แรงงานด้วย ผมจึงสอบถามประวัติเพิ่มเติม ทีนี้ถึงบางอ้อเลยครับว่า ผู้หญิงคนนี้ทำงานออฟฟิศชอบใส่รองเท้าส้นสูงเป็นชีวิตจิตใจ ใส่มาเป็นปีๆแล้ว ไม่ว่าจะไปทำงานหรือไปเที่ยวอย่างน้อยก็ขอให้ได้ใส่ส้นสูงเถอะ ผมเลยแนะนำไปว่า อาการปวดหลังที่เป็นอยู่นี่จะหายถาวรเลยครับ ถ้าเลิกใส่ส้นสูง! คนไข้ก็งงเป็นไก่ตาแตกทันทีว่า ใส่ส้นสูงมันเกี่ยวอะไรกับการปวดหลัง? มันทำให้ปวดหลังได้ยังไงกัน ผมจึงอธิบายไปว่า...
การใส่ส้นสูงทำให้ปวดหลังได้เนื่องจาก ในขณะที่ใส่ส้นสูงมันก็เหมือนกับเรากำลังเขย่งเท้าอยู่ตลอดเวลา พื้นที่ในการรองรับนํ้าหนักตัวจะถูกถ่ายเทไปที่ปลายเท้า จากเดิมที่การรับนํ้าหนักจะอยู่ทั่วทั้งฝ่าเท้า ซึ่งทำให้ความมั่นคงในการยืนน้อยลง (พลักแล้วล้มง่ายกว่าคนยืนเต็มฝ่าเท้า) กล้ามเนื้อขา ลำตัวและหลังจึงต้องเกร็งตัวมากขึ้นในขณะที่เรายืน หรือเดินเพื่อไม่ให้เราล้ม กล้ามเนื้อจึงเหมือนกับถูกใช้งานอย่างหนักตลอดเวลา จนเกิดความตึงตัวสูง เกิดการล้าได้ง่าย จนเกิดอาการบาดเจ็บในที่สุด นั่นคือสาเหตุแรกครับ
สาเหตุที่สอง เกิดจากการปรับตัวของกระดูกสันหลังส่วนเอวครับ ถ้าเราใส่รองเท้าส้นสูงจะทำให้กระดูกสันหลังส่วนเอวแอ่นมากขึ้น (hyperlordosis) และยิ่งใส่สูงสูงมากเท่าไหร่ก็ยิ่งแอ่นมากขึ้นเท่านั้นครับ
ภาพเปรียบเทียบระหว่างผู้ที่ใส่ส้นสูงกับรองเท้าส้นเตี้ย
ทำไมใส่รองเท้าส้นสูงยิ่งทำให้หลังแอ่นได้ละ?
มันเป็นการปรับสมดุลโครงสร้างของร่างกายครับ ลองนึกภาพว่าเรากำลังเขย่งเท้า แล้วที่นี้ให้ร่างกายช่วงบนเลยข้อเท้าขึ้นมาแข็งโป้กเหมือนท่อนซุงดูครับ พอเขย่งเท้าปุ้บจะพบว่า แทนที่ร่างกายจะตรงอยู่ในแนวตั้งฉากกับพื้น มันกลับเอียงไปทางด้านหน้าแทน ซึ่งจะทำให้เราเสี่ยงที่ล้มหน้าทิ่มได้จากแรงดึงดูดของโรค ฉะนั้นกล้ามเนื้อช่วงเอวของเราจึงดึงร่างกายท่อนบนให้กลับมาอยู่ในแนวตั้งฉากกับพื้นเช่นเดิม ถ้าเราเขย่งเท้าไม่นานมันก็ไม่น่ามีปัญหาหรอกครับ เพียงแต่ว่าการใส่รองเท้าส้นสูงมันก็ไม่ต่างอะไรจากการเขย่งเท้าค้างไว้น่ะสิ ผลลัพท์ก็คือ ทำให้กระดูกสันหลังช่วงเอวมีส่วนโค้งมากขึ้น (hyperlordosis หรือ เรียกง่ายๆว่าหลังแอ่นนั่นแหละครับ) กล้ามเนื้อช่วงเอวเกิดความตึงตัวสูง กล้ามเนื้อเกร็งค้าง (ลองสังเกตุคนที่ใส่รองเท้าส้นสูงเป็นประจำดูจะพบว่าหลังแข็งแทบจะทุกคน) และมีอาการปวดหลังเรื้อรังตามมาจากการที่กล้ามเนื้อหลังถูกใช้งานหนัก (overuse)
ฉะนั้น จึงไม่แปลกถ้าใครที่ใส่ส้นสูงเป็นเวลานานแล้วมีอาการปวดหลังเรื้อรัง วันที่รักษาก็หายปวดดี แต่ 2-3 วันถัดมาก็ปวดเหมือนเดิม ตราบใดที่ยังไม่เลิกใส่รองเท้าส้นสูงนั่นเองครับ
ภาพเปรียบเทียบระหว่างกระดูกสันหลังปกติกับหลังแอ่น
แล้วบทสนทนาหลังจากที่ผมอธิบายเสร็จกับผู้ป่วยหญิงคนนั้น
แอดมิน : "ถ้าคุณอยากหายปวดหลัง ก็เลิกใส่รองเท้าส้นสูงระครับ เปลี่ยนมาใส่ส้นเตี้ยแทน หรือใส่ผ้าใบเลยจะดีมากๆเลยนะครับ"
ผู้ป่วยหญิง : "อ๋อ พี่คงเลิกใส่ไม่ได้หรอกค่ะ เพราะพี่ยังไม่มีแฟนเลย ถ้าหยุดใส่แล้วกลัวไม่สวย เดี๋ยวไม่มีใครมาจีบน่ะ"
แอดมิน : "เอิ่มมมมมม -*-"
เครดิตภาพ
- http://www.webmd.com/pain-management/ss/slideshow-worst-shoes-for-your-feet
- http://70sbig.com/blog/2012/07/hyperlordosis/
- http://www.spinept.com/blog/high-heels-and-pain
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น